โรงเรียนวัดสถิตย์ชลธาร ตั้งขึ้นเมื่อวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๔๗๗ โดยอาศัยศาลาวัดสถิตย์ชลธารเป็นสถานที่เล่าเรียน โดยจัดเป็นโรงเรียนประเภทในวัด พระภิกษุกล่ำ สุจโจ เป็นผู้สอน ๑ เมษายน ๒๔๗๘ บรรจุ นายเชือน นวลศรี เข้าเป็นครูโรงเรียนนี้
๑ พฤศจิกายน ๒๔๗๗๘ นายเชือน นวลศรี ย้ายไปเป็นครูโรงเรียนประชาบาลตำบลบางเขา ๑ และได้ย้าย นายกล่ำ พันธวงศ์ ต่อมานายกล่ำ พันธวงศ์ ได้ลาออกทางราชการแต่งตั้งนายเจะอุเซ็ง เจะสอเหาะ ครูใหญ่โรงเรียนประชาบาลตำบลตุยง ๑ มาเป็นครูใหญ่โรงเรียนวัดสถิตย์ชลธารและ ย้ายที่เรียนจากวัดสถิตย์ชลธารไปอาศัยเรือน นายมะเซง สาแม ในหมู่ที่ 1 เป็นสถานที่เรียน แต่การเดินทาง นักเรียนไม่สะดวก โต๊ะอิหม่ามผู้ดูแลสุเหร่าในหมู่ที่ ๒ อนุเคราะห์สุเหร่าเป็นสถานที่ทำการ
๑ มกราคม ๒๔๗๙ นายเจะอุเซ็ง เจะสะเหาะ ครูใหญ่ นายเจะเละ กำนันพร้อมด้วยราษฎรในท้องถิ่น ช่วยกันปลูกสร้างโรงเรียนชั่วคราวขึ้นหนึ่งหลังและได้ย้ายสถานที่เรียนจากสุเหร่ามาทำการสอนในอาคารเรียนที่สร้างขึ้นใหม่
๑๗ มกราคม ๒๔๗๙ แต่งตั้ง นายแก้ว พวงศร ครูประชาบาลตำบลตุยง ๑ มาเป็นครูโรงเรียนนี้
๑ กรกฎาคม ๒๔๗๙ บรรจุ นายเสงี่ยม พรหมสุวรรณ เป็นครูใหญ่โรงเรียนประชาบาลตำบลตุยง ๑ และนายเชือน นวลศรี ครูใหญ่โรงเรียนประชาบาลตำบลบางเขา ๑ มาเป็นครูที่โรงเรียนนี้ ต่อมา นายเชือน นวลศรี ได้ลาออกจากราชการ
๑ พฤศจิกายน ๒๔๘๑ นายแก้ว พวงศร ลาออก แต่งตั้งนายแวอุเซ็ง เบ็ญบือราเฮง (สมควร วิวัฒนศิลป์) ครูใหญ่โรงเรียนประชาบาลตำบลท่ากำชำ ๓ มาช่วยสอนชั่วคราว
๑๔ เมษายน ๒๔๘๒ แต่งตั้งนายจำลอง สุวรรณยุหะ ครูประชาบาล ตำบลดอนรัก ๑ มาประจำโรงเรียนนี้
๒๑ ธันวาคม ๒๔๘๒ บรรจุนางสาวเสงี่ยม สุวรรณพิทักษ์ เป็นครูโรงเรียนนี้
๘ มกราคม ๒๔๘๓ โอนนายจำลอง สุวรรณยุหะ ไปเป็นสารวัตรศึกษาประจำอำเภอหนองจิก
๑๓ กรกฎาคม ๒๔๘๕ บรรจุนายผุด ยมานนท์ เข้าเป็นครู แต่งตั้งไปปฏิบัติงานที่จังหวัด
นายผุด ยมานนท์ ลาออกเพื่อไปรับราชการในตำแหน่งเสมียนแผนกศึกษาธิการจังหวัด นายเอื้อน สุวรรณมูลิก สารวัตรศึกษาประจำอำเภอหนองจิกมาทำหน้าที่แทนแต่ตัวต้องไปปฏิบัติงานที่จังหวัดเนื่องจากกระทรวงมหาดไทยได้เปลี่ยนแปลงเขตตำบลและหมู่บ้านใหม่ตำบลบางตาวาถูกยุบรวมกับตำบล ตุยงโรงเรียนจึงเปลี่ยนชื่อใหม่ว่า “ โรงเรียนประชาบาลตำบลตุยง ๔” (วัดสถิตย์ชลธาร)
๑ กรกฎาคม ๒๔๘๖ นายจรัล เจะสอเหาะ ครูใหญ่ลาออกและบรรจุนางสาววิจิตร บุญเซ่งซ้าย
(วิจิตร โสภาพงศ์) เข้าเป็นครู นายคง ประชุมชนะ ย้ายมาเป็นครูโรงเรียนนี้แต่ได้ขอลาออกไปเพื่อประกอบอาชีพอื่น
๔ กันยายน ๒๔๘๘ แต่งตั้งนายเพชร หนูดี มาเป็นครูใหญ่
๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๔๙๐ บรรจุนายชูศักดิ์ ขวัญเมือง เข้าเป็นครู
๒๐ พฤศจิกายน ๒๔๙๑ ย้ายนางสาวเสงี่ยม สุวรรณนิตย์ (เสงี่ยม รอดประไพ) ไปเป็นครูประชาบาลตำบลดอนรัก ๑ ( บ้านดอนรัก )
๒๓ กรกฎาคม ๒๔๙๒ แต่งตั้งนางอนงค์ สืบประดิษฐ์ ครูสังกัดอำเภอยะหริ่ง มาดำรงตำแหน่งครูโรงเรียนนี้ตามหนังสืออำเภอที่ ๑๓๑๔/๒๔๙๓ ลงวันที่ ๑๙ กรกฎาคม ๒๔๙๓
๑๖ เมษายน ๒๔๙๓ บรรจุนายประยูร ดือราแม เข้าเป็นครูสอนภาษามาลายูและศาสนาอิสลาม ตามหนังสืออำเภอที่ ๗๗๕/๒๔๙๓ ลงวันที่ ๑๑ เมษายน ๒๔๙๔ สิงหาคม ๒๔๙๔ นายเพชร หนูดี ครูใหญ่ย้ายไปเป็นครูใหญ่โรงเรียนบ้านปะกาลือสง นายยิ่ง แก้วมณีโชติ รักษาการแทนครูใหญ่โรงเรียนบ้าน ปะกาลือสง ย้ายมารักษาการแทนครูใหญ่โรงเรียนนี้
มกราคม ๒๕๐๑ นางอนงค์ สืบประดิษฐ์ ย้ายไปเป็นครูใหญ่โรงเรียนบ้านตุยง(เพชรานุกูลกิจ) ตามหนังสืออำเภอที่ ๒๗/๒๕๐๑ ลงวันที่ ๘ มกราคม ๒๕๐๑ เป็นการชั่วคราว บรรจุ นางสาวอนงค์ ทิพย์ด้วง (เรืองเกลี้ยง) ย้ายไปรับราชการสังกัดอำเภอควนขนุนตามคำสั่งที่ ๘๔/๒๕๐๓ ลงวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๐๓
๓ ตุลาคม ๒๕๐๓ นายยิ่ง แก้วมณีโชติ รักษาการแทนครูใหญ่ย้ายไปรักษาการแทนครูใหญ่วัดสุวรรณากร
๒ ตุลาคม ๒๕๐๓ นายนอง ทองช่วย ครูใหญ่โรงเรียนวัดสุวรรณากร ย้ายมาเป็นครูใหญ่โรงเรียนนี้เป็นการชั่วคราวตามหนังสืออำเภอที่ ๕๒๔/๒๕๐๓ ลงวันที่ ๒๖ กันยายน ๒๕๐๓
๑ มิถุนายน ๒๕๐๔ นายนอง ทองช่วย ครูใหญ่ย้ายไปช่วยราชการแผนกศึกษาธิการอำเภอ หนองจิกตามหนังสืออำเภอที่ ๒๐๖/๒๕๐๔
แต่งตั้งนางสาวกลอยใจ อินทสุวรรณ (กลอยใจ จิระรัตน์) ครูโรงเรียนบ้านน้ำดำมาช่วยราชการโรงเรียนนี้ตามหนังสืออำเภอที่ ๓๓๕/๒๕๐๔ ลงวันที่ ๒ กรกฎาคม ๒๕๐๔
๑ เมษายน ๒๕๐๕ แต่งตั้ง นายนิเวศ แข็งแรง ครูช่วยงานแผนกศึกษาธิการอำเภอหนองจิก
ดำรงตำแหน่งครูในโรงเรียนนี้
๓๐ พฤษภาคม ๒๕๐๕ จังหวัดแต่งตั้งนายนิเวศ แข็งแรง ครูโรงเรียนนี้ดำรงตำแหน่งครูใหญ่โรงเรียนเดิมตามคำสั่งจังหวัดที่ ๑๒๙/๒๕๐๕ ลงวันที่ ๑ เมษายน ๒๕๐๕
๒ กันยายน ๒๕๐๕ กรมสามัญศึกษาแต่งตั้งให้นางจันทร์ฉาย ช่วยธรรมรัตน์ ครูโรงเรียนบ้าน โคกเสม็ดชุน (เฮงเสียงสามัคคี) หาดใหญ่ดำรงตำแหน่งครูโรงเรียนนี้ตามคำสั่งกรมสามัญที่ ส.๕๙๐/๒๕๐๕ ลงวันที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๐๕
๑๗ กันยายน ๒๕๐๕ อำเภอให้นางจันทร์ฉาย ช่วยธรรมรัตน์ ไปช่วยราชการ โรงเรียนบ้านตุยง ( เพชรานุกูลกิจ) เป็นการชั่วคราว ตามหนังสืออำเภอที่ ๔๔๗/๒๕๐๕ ลงวันที่ ๙ กันยายน ๒๕๐๕
๓ มิถุนายน ๒๕๐๖ แต่งตั้งนางสาวพงา ผ่องอำไพ ( นางพะงา ฉิมทับ ) มาเป็นครูโรงเรียนนี้ ตามหนังสืออำเภอที่ ๙๙๒/๒๕๐๖ ลงวันที่ ๓ มิถุนายน ๒๕๐๖ โดยจังหวัดบรรจุตั้งแต่วันที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๐๖ ตามคำสั่งจังหวัดที่ ๒๑๔/๒๕๐๖ ลงวันที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๐๖
๓ กรกฎาคม ๒๕๐๖ นายลิ่ม คงชู ครูโรงเรียนบ้านมะกอ อำเภอสายบุรี ได้ย้ายมาดำรงตำแหน่งครูโรงเรียนนี้ตามคำสั่งจังหวัดที่ ๑๘๐/๒๕๐๖ ลงวันที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๐๖ โดยสั่งให้เข้ารับหนาที่ตั้งแต่วันที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๐๖
๘ สิงหาคม ๒๕๐๖ ได้รับงบประมาณสำหรับปลูกสร้างอาคารเรียนชั้นเด็กเล็กจำนวน ๑ ห้อง เงิน ๑๐,๐๐๐บาท แต่สถานที่เดิมคับแคบและตั้งอยู่ริมทะเลไม่เป็นการปลอดภัยจึงได้ประชุมกรรมการศึกษาขอย้ายสถานที่ปลูกสร้างใหม่ที่ประชุมได้ตกลงให้ปลูกสร้างในที่ดินของวัดสถิตย์ชลธาร ซึ่งได้รับอนุญาตจากท่านเจ้าคุณมุจลินทโมลี เจ้าอาวาส วัดมุจลินทวาปีวิหาร คณะครูและราษฎร ได้ช่วยกัน รื้อถอนโรงเรียนหลังเก่ามาทำการปลูกสร้างใหม่ในที่ดินของวัดสถิตย์ชลธาร โดยสร้างต่อจากชั้นเด็กเล็กในระหว่างที่ทำการรื้อถอนและทำการปลูกสร้างใหม่นี้ได้อาศัยสถานที่ของวัดทำการสอนเป็นการชั่วคราว
๑๒ ธันวาคม ๒๕๐๖ ชั้นเด็กเล็กสร้างเสร็จได้ให้นักเรียน เข้าเรียน ๒ ห้องเรียนและเรียนที่ศาลาการเปรียญ ๒ ห้องเรียน เนื่องจากอาคารเก่าที่รื้อมาสร้างยังไม่เสร็จ
๒๑ พฤษภาคม ๒๕๐๗ นายสุนทร จิตมั่น ครูโรงเรียนบ้านปานัน อำเภอมายอ รายงานตัวตามหนังสืออำเภอที่ ป.น.๕๓/๘๕๓ ลงวันที่ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๐๗ ลงวันที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๐๗ ซึ่งจังหวัดสั่งแต่งตั้งมาดำรงตำแหน่งครูโรงเรียนบ้านบางตาวาแต่อาคารเรียนยังสร้างไม่เสร็จยังไม่ได้เปิดทำการสอนจึงให้ทำการสอนในโรงเรียนนี้ชั่วคราว
๒๑ กันยายน ๒๕๐๗ นายสุนทร จิตมั่น ย้ายไปดำรงตำแหน่งครูโรงเรียนบ้านปากบางตาวา ตามหนังสืออำเภอที่ ปน.๕๓/๑๗๒๘ ลงวันที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๐๗
๒๐ ธันวาคม ๒๕๐๘ อำเภอส่งนาย พงศ์ไทย วัยสุวรรณ ครูโรงเรียนบ้านบางราพา อำเภอหนองจิกมาช่วยราชการในโรงเรียนนี้ตามหนังสืออำเภอที่ ป.น. ๕๓/๒๕๐๘ ลงวันที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๐๘
๘ กรกฎาคม ๒๕๐๙ ครูปฏิบัติการพิเศษที่ ๕๑ ( ศ.ป.ศ.๕๑) ได้ทำพิธีมอบอาคารเรียน ที่ได้ช่วยเหลือปลูกสร้างต่อเติมโรงเรียนหลังเก่าที่ยังค้างการก่อสร้างอยู่เริ่มปฏิบัติงานตั้งแต่วันที่ ๒๒ ธันวาคม ๒๕๐๘ จนถึงวันที่ ๗ มกราคม ๒๕๐๙ จึงแล้วเสร็จแต่ยังไม่ได้ลาดพื้นจึงได้ทำพิธีส่งมอบโดยมีนายประกฤตเกตุทัต สรรพากรจังหวัดเป็นประธานแทนผู้ว่าราชการจังหวัด
๙ มกราคม ๒๕๐๙ แยกนักเรียนลงไปเรียนที่ อาคารที่สร้างใหม่ ๔ ห้องเรียน และเรียนบนศาลาการเปรียญ๓ห้องเรียน
๕ กรกฎาคม ๒๕๑๐ ทางอำเภอส่งตัวนางสาวสุรีย์ ภิรมย์ศาสตร์กุล มาเป็นครูช่วยสอนตามระเบียบครูช่วยสอน ตามคำสั่งองค์การบริหารส่วนจังหวัดที่ ๗๐/๒๕๑๐ ลงวันที่ ๒๘ มิถุนายน ๒๕๑๐
๒๐ สิงหาคม ๒๕๑๑ ทางอำเภอสั่งให้ นางสาวสุรีย์ ภิรมย์ศาสตร์กุล ครูช่วยสอนนอกจากหน้าที่ ตามที่ขอลาออกตามคำสั่งองค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี ที่ ๒๔๘/๒๕๑๑ ลงวันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๑๑ โดยพ้นจากตำแหน่งตั้งแต่วันที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๑๑
๑๗ ตุลาคม ๒๕๑๒ ได้รับงบประมาณสร้างอาคารเรียนแบบ ป.๑ ก. จำนวน ๑ หลัง ๔ ห้องเรียน
๑ พฤษภาคม ๒๕๑๘ ได้รับงบประมาณสร้างอาคารเรียน แบบ ป.๑ ก จำนวน ๑ หลัง ๓ ห้องเรียน พร้อมส้วม ๔ ที่นั่ง
๔ พฤษภาคม ๒๕๒๐ ได้รับงบประมาณสร้างอาคารเรียนแบบ ป. ๑ ก. จำนวน ๑ หลัง ๒ ห้องเรียน สำหรับใช้เป็นห้องเรียนชั้นเด็กเล็ก
พ.ศ. ๒๕๒๒ ได้รับงบประมาณสร้างโรงฝึกงานจำนวน ๑ หลัง
พ.ศ. ๒๕๒๕ ได้รับงบประมาณสร้างส้วมแบบ ส.ป.ช. ๐๐๑/๒๖ จำนวน ๑ หลัง ๓ ที่นั่ง
พ.ศ. ๒๕๒๗ ได้รับงบประมาณจากกรมประมง สร้างบ่อปลาให้โรงเรียนจำนวน ๑ บ่อ ตามโครงการพัฒนาหมู่บ้านยากจนมีขนาด ๑๐x๙๒ เมตร ราคา ๗,๔๐๐ บาท จุปลาได้ประมาณ ๑๐,๐๐๐ ตัว
พ.ศ. ๒๕๒๘ ได้รับงบประมาณสร้างอาคารอเนกประสงค์แบบ ศ.ป.ศ. ๒๐๑/๒๖ จำนวน ๑ หลัง ขนาด ๑๐x๒๐ เมตร ราคา ๒๐๐,๐๐๐ บาท
พ.ศ. ๒๕๒๙ ทางโรงเรียนได้รับการพิจารณาคัดเลือกเข้าโครงการ กศ.พช. ได้รับงบประมาณสนับสนุน ๑๐,๐๐๐ บาท
พ.ศ. ๒๕๓๐ กรมทรัพยากรธรณีได้สร้างบ่อบาดาลให้ ๑ บ่อ ลึก ๑๒๕ เมตร พร้อมติดตั้ง สูบโยกราคาประมาณ ๑๐๐,๐๐๐ บาท ซึ่งต่อมา พ.ศ. ๒๕๓๓ นายเพิ่ม พรหมสะอาด รักษาการในตำแหน่งอาจารย์ใหญ่เห็นว่าสูบโยกนี้เสียหายเนื่องจากใช้งานมานาน จึงได้ติดต่อกรมทรัพยากรธรณีให้ยกสูบโยกออกไปและดัดแปลงใช้เครื่องสูบไฟฟ้า ๕ แรง สูบน้ำใส่เครื่องกรอง ซึ่งมีความสูงประมาณ ๖ เมตร สามารถส่งน้ำใช้ทั่วบริเวณโรงเรียนและติดตั้งท่อน้ำไปใช้ในวัดปัจจุบันบ่อบาดาลและเครื่องสูบไฟฟ้าชำรุดใช้การไม่ได้และโรงเรียนได้ทำการรื้อถอน
พ.ศ. ๒๕๓๓ โรงเรียนได้เปลี่ยนจัดการเรียนการสอนจากหลักสูตรประถมศึกษา ๒๕๒๑ เป็นหลักสูตรประถมศึกษา ๒๕๒๑ (ฉบับปรับปรุง ๒๕๓๓) ทำการสอนครบทุกชั้นโดยเป็นโรงเรียนนำร่องหลักสูตรใหม่ฉบับปรับปรุงเป็น ๑ ใน ๕ โรงเรียนของจังหวัดปัตตานีมาจนถึง ปัจจุบันนี้
๑๗ กันยายน ๒๕๓๙ ทางโรงเรียนได้รับงบประมาณ ๑,๖๕๐,๐๐๐ บาท (หนึ่งล้านห |